“สิว” ปัญหาผิวตัวฉกาจที่คอยบั่นทอนความมั่นใจซึ่งมักทิ้งเรื่องต้องปวดหัวตามมา ”รอยสิว” 💔

รอยสิวปัญหาที่ตามมาจากการเป็นสิว โดยเฉพาะสิวที่มีการ “อักเสบ” เมื่อรักษาหายแล้วมักจะทิ้งรอยไว้ 3 ลักษณะ;

1. รอยที่เกิดจากการเปลี่ยนสีของผิว “รอยสิว”

โดยมากมักจะเกิดขึ้นหลังสิวหาย โดยทั่วไปจะเป็น “สีแดง” แล้วเปลี่ยนสีเป็น “สีน้ำตาล” แล้วจางหายไป อาจต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือน ซึ่งดูแลรักษาเบื้องต้นโดยการ หลีกเลี่ยงแสงแดดที่มักส่งผลให้รอยเข้มขึ้น และใช้ยาทาลดรอยสิว ในกลุ่มวิตามินเอ วิตามินซี หรือกลุ่มยาที่มีคุณสมบัติยับยั้งการสร้างเม็ดสีก็ส่งผลให้รอยจางเร็วขึ้นค่ะ

2. แผลเป็นชนิดหลุม “หลุมสิว”

แผลเป็นชนิดหลุมมักพบได้ที่บริเวณ แก้ม ขมับ หน้าผาก จมูก ฯลฯ มักไม่หายหรือฟื้นฟูเองตามกาลเวลา เพราะใต้ผิวมี “พังผืด” รั้งการฟื้นตัว และ”เส้นใยคอลลาเจน” บริเวณดังกล่าวเสื่อมสภาพ ซึ่งรักษาได้โดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนควบคู่กับการเลาะพังผืดที่เหนี่ยวรั้งการฟื้นฟูของผิว หรือจะเป็นการฉีดสารเติมเต็มบริเวณดังกล่าวเพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นค่ะ

3. แผลเป็นชนิดนูน “คีลอยด์”

เกิดขึ้นบริเวณใต้ผิวหนังซึ่งมี “พังผืด” หนามากกว่าปกติ เพราะเส้นใยคอลลาเจนจับตัวกันเป็นก้อน มักพบบริเวณหน้าอก หลัง ต้นแขน ฯลฯ โดยไม่สามารถหายไปได้เองจึงต้องพึ่งพาการรักษาโดยการฉีดยา การทำเลเซอร์ หรือผ่าตัดเพื่อเอาส่วนที่นูนออก

หลายๆท่านอ่านแล้วคงจะตกใจกับปัญหาที่ตามมาหลังการเกิดสิว และวิธีการรักษาที่ดูยุ่งยากใช่ไหมคะ? แอดมินขอแนะนำให้ทุกท่านดูแลรักษาผิวอันเป็นที่รักไว้ให้ดีค่ะ 😊
แต่หากว่าใครที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ แอดมินขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนวทางการรักษาที่ถูกต้องก่อนที่จะสายไปค่ะ โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ The Sign Clinic หรือ ทำนัดเพื่อทำการประเมิน ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
LINE@ : @TheSignClinic หรือ https://lin.ee/kFgssuV
CALL: 02-017-9090, 061-797-8888
FB MESSENGER : m.me/Thesignclinic
#Acne #acnescars #TheSignClinic #HouseofAesthetics #TheBestVersionofYou #VBEAM #PicoWay
แหล่งที่มา: คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และรับสิทธิพิเศษ ฟรี!

บทความที่เกี่ยวข้อง